โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงจากอีสุกอีใส ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรียของผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อนในเด็ก รวมถึงการติดเชื้อสเตรปโทคอกคัสกลุ่ม A การติดเชื้อที่ปอด (ปอดบวม) การติดเชื้อหรือบวมของสมอง (ไข้สมองอักเสบ, สมองเสื่อม)
ทำไมโรคอีสุกอีใสจึงเป็นอันตรายสำหรับผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ มีโอกาสตายจากโรคอีสุกอีใสมากกว่าเด็ก 25 เท่า ความเสี่ยงของการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคอีสุกอีใส (varicella) เพิ่มขึ้นในผู้ใหญ่ โรคอีสุกอีใสอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคปอดบวม หรือมักเกิดการอักเสบของสมอง (ไข้สมองอักเสบ) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจร้ายแรงได้
อีสุกอีใสอันตรายที่สุดเมื่อไหร่
ผู้ป่วยอีสุกอีใสสามารถแพร่เชื้อได้จริงตั้งแต่ 2 วันก่อนปรากฏผื่นจนกว่าตุ่มพองจะเกลี้ยงเกลา ช่วงเวลานี้ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน เมื่อตกสะเก็ดหรือเปลือกโลกแห้งแล้ว โรคนี้ไม่น่าจะแพร่กระจาย
อีสุกอีใสทำให้ตายได้อย่างไร
ผู้เขียนศึกษา Mona Marin จากศูนย์การสร้างภูมิคุ้มกันโรคและโรคระบบทางเดินหายใจแห่งชาติของ CDC บอกบล็อกสุขภาพทางอีเมลว่าในเด็ก สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของ varicella คือ การติดเชื้อที่ตามมาของแผลพุพองจากเชื้อ Streptococcus แบคทีเรียกลุ่ม A หรือ Staphylococcus ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตเป็นพิษและปอดบวม
อีสุกอีใสมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร
อีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลา-งูสวัด (VZV) ทำให้เกิด คัน ผื่นคล้ายตุ่มพอง ผื่นขึ้นครั้งแรกที่หน้าอก หลัง และใบหน้า จากนั้นจะลามไปทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการคันระหว่าง 250 ถึง 500